Car Detailing คืออะไร? ทำไมรถหรูถึงต้องใส่ใจ?

การเตรียมพื้นผิว (Surface Preparation)

ขั้นตอนแรกของการทำ Car Detailing คือการเตรียมพื้นผิวรถให้พร้อมสำหรับขั้นตอนต่อไป โดยเริ่มจากการล้างทำความสะอาดแบบสองถัง (Two Bucket Method) เพื่อป้องกันการเกิดรอยขีดข่วน จากนั้นจะใช้ Clay Bar เพื่อกำจัดสิ่งสกปรกฝังแน่นบนพื้นผิวสี และปิดท้ายด้วยการเป่าแห้งด้วยเครื่องเป่าลมแรงสูง เพื่อกำจัดน้ำตามซอกมุมต่างๆ

การขัดสีรถ (Paint Correction)

การขัดสีรถเป็นขั้นตอนที่สำคัญมากในการทำ Car Detailing โดยเฉพาะสำหรับรถหรู เพราะจะช่วยกำจัดรอยขีดข่วน รอยด่าง และความไม่สม่ำเสมอของสีรถ กระบวนการนี้จะเริ่มจากการขัดหยาบเพื่อกำจัดรอยลึก ตามด้วยการขัดกลางเพื่อปรับพื้นผิวให้เรียบเนียน และปิดท้ายด้วยการขัดละเอียดเพื่อเพิ่มความเงางาม

การเคลือบผิว (Paint Protection)

หลังจากที่สีรถได้รับการแก้ไขจนสมบูรณ์แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเคลือบผิวเพื่อปกป้องสีรถ โดยมีตัวเลือกหลักสองประเภท คือ การเคลือบแก้วและการเคลือบเซรามิก

การเคลือบแก้ว (Glass Coating) เป็นการเคลือบผิวรถด้วยสารเคมีที่มีส่วนผสมของซิลิก้า เมื่อแห้งแล้วจะแข็งตัวเป็นชั้นใสที่แข็งแรง ช่วยปกป้องสีรถจากรอยขีดข่วนเล็กๆ และทำให้การทำความสะอาดง่ายขึ้น การเคลือบแก้วมีความทนทานประมาณ 1-2 ปี ให้ความเงางามระดับสูง และมีคุณสมบัติการไล่น้ำที่ดีเยี่ยม

ส่วนการเคลือบเซรามิก (Ceramic Coating) เป็นเทคโนโลยีการเคลือบผิวระดับสูงที่ใช้สารเคลือบนาโนเซรามิก ซึ่งให้การปกป้องที่เหนือกว่าการเคลือบแก้ว โดยมีความทนทาน 3-5 ปีหรือมากกว่า มีคุณสมบัติในการป้องกันรอยขีดข่วนที่ดีเยี่ยม ให้ความเงางามระดับสูงสุด และทนต่อความร้อนและสารเคมีได้ดี